วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2562

“สิงคโปร์” “สิงโต”


 10.“สิงโต”



สิงคโปร์”
       “สิงโต” เป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อประเทศ มาจากคำว่า สิงหปุระ (Singapura) เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึงเมืองแห่งสิงโต ตามตำนานเล่าขานเจ้าผู้ครองนครแห่งปาเล็มบัง ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของอินโดนีเซีย ได้ออกเดินทางแสวงหาดินแดนใหม่เพื่อสร้างเมือง แต่เรือก็อับปางลง พระองค์ได้ว่ายน้ำขึ้นฝั่ง แล้วก็เห็นสัตว์ชนิดหนึ่งมีรูปร่างลำตัวสีแดงหัวดำหัวคล้ายสิงโตหน้าอกขาว พระองค์จึงถามคนติดตามว่า สัตว์ตัวนั้นคืออะไรคนติดตามก็ตอบว่ามันคือ สิงโต พระองค์จึงเปลี่ยนชื่อเกาะแห่งนั้นเสียใหม่ว่า สิงหปุระ ซึ่งจริงๆ แล้วสัตว์ชนิดนั้นอาจเป็นเสือ เพราะไม่มีหลักฐานว่ามีการพบสิงโตบนเกาะมาก่อน แต่ประเทศสิงคโปร์และสิงโตก็มีความเกี่ยวข้องกันนับจากนั้นเป็นต้นมา 
  ปัจจุบันบนตราแผ่นดินสิงคโปร์ มีสิงโตปรากฏอยู่เคียงคู่กับเสือโคร่ง โดยสิงโตด้านขวานั้นแทนประเทศสิงคโปร์ ส่วนเสือโคร่งด้านซ้ายนั้นแทนประเทศมาเลเซียแสดงถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ของเกาะสิงคโปร์กับมาเลเซีย โดยสิงโตนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนความกล้าหาญ พละกำลังและความดีเลิศ

       และนี่ก็เป็นสัตว์ประจำชาติของแต่ละประเทศในประชาคมอาเซียน จะเห็นได้ว่าบางประเทศอาจเป็นสัตว์ชนิดเดียวกัน แต่แตกต่างด้วยที่มาและความหมาย ซึ่งสัตว์ทั้งหมดนี้ก็สามารถบ่งบอกถึงสัญลักษณ์แต่ละประเทศได้เป็นอย่างดี

“เวียดนาม” “กระบือ”


9. “กระบือ”


“เวียดนาม”
       “กระบือ” หรือควาย เป็นสัตว์ประชาติประเทศเวียดนาม สามารถพบเห็นได้ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม

“ลาว” “ช้าง”


8. “ช้าง” 




“ลาว”
       “ช้าง” เป็นสั
ตว์ประจำชาติประเทศลาว ช้างถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่มีความผูกพันกับชาวลาวเป็นอย่างยิ่ง ในอดีตลาวได้รับการเรียกขานว่าเป็นเมืองล้านช้าง แต่ปัจจุบันประชากรช้างในลาวอยู่ในภาวะวิกฤต รัฐบาลลาวจึงได้ฟื้นฟูและอนุรักษ์ช้างลาวไว้ โดยการจัดงานบุญช้างขึ้นเป็นประจำทุกปี

“กัมพูชา” “กูปรี” หรือ “โคไพร”



 7.กูปรี” หรือ “โคไพร”



“กัมพูชา”
       “กูปรี” หรือ “โคไพร” เป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศกัมพูชา (เจ้านโรดมสีหนุแห่งกัมพูชาทรงประกาศให้กูปรีเป็นสัตว์ประจำชาติของกัมพูชา) กรูปรีเป็นสัตว์จำพวกกระทิงและวัวป่า มักอยู่รวมเป็นฝูง โดยฝูงหนึ่งอาจมากถึง 20 ตัว กรูปรีจัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พบเห็นได้ยากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก พบได้ทางเหนือของประเทศกัมพูชา ทางใต้ของลาว ทางตะวันตกของเวียดนาม และทางตะวันออกของไทย ปัจจุบันไม่มีการรายงานการพบมานานแล้ว เชื่อว่าอาจจะยังพอมีหลงเหลืออยู่ในชายแดนไทยกับกัมพูชาแถบจังหวัดศรีสะเกษ ราวปี พ.ศ.2507 มักจะมีข่าวว่าพบสัตว์ลักษณะคล้ายกูปรีอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่น่าเชื่อถือพอ นอกจากคำเล่าลือเท่านั้น

“มาเลเซีย” “เสือมลายู”

5.“เสือมลายู”




 “มาเลเซีย”
       “เสือมลายู” เป็นสัตว์ประจำชาติมาเลเซีย เสือมลายูมีถิ่นฐานอยู่ทางตอนกลางและตอนใต้ของคาบสมุทรมลายู โดยจะเห็นสัญลักษณ์ของเสือมลายูได้จากบนตราแผ่นดินของประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการแสดงถึงพละกำลังและความกล้าหาญของชาวมาเลเซีย อีกทั้งยังใช้เป็นชื่อเล่นของฟุตบอลทีมชาติมาเลเซียอีกด้วย

“ฟิลิปปินส์” “กระบือ

4.“กระบือ




 “ฟิลิปปินส์”
       “กระบือ” เป็นสัตว์ประจำชาติฟิลิปปินส์ กระบือในภาษาตากาล็อกเรียกว่า คาราบาว สำหรับในประเทศฟิลิปปินส์เลี้ยงกระบือเพื่อใช้แรงงานในไร่นา หรือใช้สำหรับการชักลากซุงออกจากป่า โดยลักษณะนิสัยพฤติกรรมของกระบือนั้น เมื่อว่างเว้นจากการถูกใช้งานมักจะชอบนอนแช่น้ำหรือแช่ปลักโคลนเพื่อเป็นการผ่อนคลายความร้อนของร่างกาย

“อินโดนีเซีย” “มังกรโคโมโด”


 3.“มังกรโคโมโด” 





 3.“อินโดนีเซีย”
       “มังกรโคโมโด” เป็นสัตว์ประจำชาติอินโดนีเซีย มังกรโคโมโดเป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ้งก่า (มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก) มังกรโคโมโดถือเป็นสัตว์เลื้อยคลานใกล้สูญพันธุ์ สามารถพบได้เฉพาะบนเกาะโคโมโด (Komodo Island) ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ เนื่องจากเป็นเกาะภูเขาไฟกลางทะเล


“เสือ” “เมียนมาร์”

  2.“เสือ” 





 “เมียนมาร์”
       “เสือ” เป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศเมียนมาร์ ลักษณะของเสือสามารถบ่งบอกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศเมียนมาร์

“บรูไน” “เสือโคร่ง”


2.เสือโคร่ง



“บรูไน”
       “เสือโคร่ง” เป็นสัตว์ประจำชาติบรูไน เสือโคร่งหรือเสือลายพาดกลอน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม จัดเป็นสัตว์กินเนื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panthera tigris ในวงศ์ Felidae จัดเป็นสัตว์ที่มีขนาดที่สุดในวงศ์นี้ และเป็นเสือสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดด้วย(ขณะที่บางข้อมูลว่า บรูไน ไม่มีสัตว์ประจำชาติ)

ช้าง ประเทศไทย


1.ช้าง





1.ช้าง ประเทศไทย
      ลักษณะเด่นของสัตว์ใน Proboscidea คือ มีร่างกายใหญ่โต จมูกและริมฝีปากบนยาว ที่เรียกว่า “งวง” ใช้สำหรับหายใจ จับสิ่งของ และจับอาหารเข้าปาก ฟันหน้าเจริญไปเป็น “งา” ฟันกรามมีขนาดใหญ่ ไม่เกิน 1 คู่ (แต่ช้างโบราณบางชนิด เช่น Dinitherium มีงาที่กรรไกรล่างคู่หนึ่ง และช้างโบราณพวก Tetrabelodon มีงาที่กรรไกรบนคู่หนึ่ง และที่กรรไกรล่างอีกคู่หนึ่ง) ไม่มีฟันเขี้ยว ขาใหญ่ตรงลักษณะคล้ายต้นเสา ขาหน้ามีกระดูก radius และ ulnar บริบูรณ์ ขาหลังก็มีกระดูก tibia และ fibula บริบูรณ์ เท้ามีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว แต่เล็บนิ้วก้อยบางตัวนั้นชักจะค่อยๆ หายไป มีกระเพาะอาหารแบบธรรมดา ไม่ได้เป็นกระเพาะอาหาร Compound แบบสัตว์เคี้ยวเอื้อง อย่างวัวหรือควาย ตัวผู้ลูกอัณฑะอยู่ในท้อง ไม่อยู่ในถุงห้อยออกมาอย่างสัตว์บกเลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ เช่น เสือ วัว ควาย กวาง และสุนัข เป็นต้น ส่วนตัวเมียมดลูกแยกเป็น Bicornuate และมีเต้านม 1 คู่ อยู่ที่หน้าอกระหว่างขา

สัตว์ประจำชาติอาเซียน 10ชนิด


สัตว์ประจำชาติอาเซียน 10ชนิด














วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2562

สหภาพพม่า (Union of Myanmar) : ดอกประดู่


สหภาพพม่า (Union of Myanmar) : ดอกประดู่




10. สหภาพพม่า (Union of Myanmar) : ดอกประดู่

          ดอกไม้ประจำชาติพม่า คือ ดอกประดู่ (Paduak) เป็นดอกไม้ที่พบมากในประเทศพม่า มีสีเหลืองทอง ผลิดอกและส่งกลิ่นหอมในฤดูฝนแรก ช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศพม่ามีการเฉลิมฉลองปีใหม่ ขึ้น ชาวพม่าเชื่อว่าดอกประดู่คือสัญลักษณ์ของความแข็งแรง ความทนทาน และเป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในพิธีทางศาสนาของชาวพม่าเลยล่ะ

สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam) : ดอกบัว


สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam) : ดอกบัว




9. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam) : ดอกบัว

          ดอกไม้ประจำชาติเวียดนาม เป็นดอกไม้ที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ดอกบัว (Lotus) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกบัวเป็นที่รู้จักกันในนาม "ดอกไม้แห่งรุ่งอรุณ" เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความผูกพัน และการมองโลกในแง่ดี ดอกบัวจึงมักถูกกล่าวถึงในบทกลอนและเพลงพื้นเมืองของชาวเวียดนามอยู่บ่อย ครั้ง

ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand) : ดอกรพฤกษ์าช


ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand) : ดอกรพฤกษ์าช




8. ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand) : ดอกรพฤกษ์าช

          ดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Ratchaphruek) ที่มีสีเหลืองสวยสง่างาม เมื่อเบ่งบานแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ซึ่งชาวไทยหลายคนรู้จักกันดีในนามของ ดอกคูน โดยมีความเชื่อว่าสีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์คือสีแห่งพระพุทธศาสนาและความ รุ่งโรจน์ รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีปรองดองของคนในชาติอีกด้วย โดยดอกราชพฤกษ์จะเบ่งบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์–พฤษภาคม มีจุดเด่นเวลาเบ่งบานคือการผลัดใบออกจนหมดต้น เหลือไว้เพียงแค่สีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์เท่านั้น

สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) : ดอกกล้วยไม้แวนด้า


สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) : ดอกกล้วยไม้แวนด้า




7. สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) : ดอกกล้วยไม้แวนด้า

          ดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ คือ ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกกล้วยไม้แวนด้าตั้งชื่อตามผู้ผสมพันธุ์ คือ Miss Agnes Joaquim จัดเป็นดอกกล้วยไม้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีสีม่วงสดสวยงามและเบ่งบานอยู่ตลอดทั้งปี โดยถูกจัดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)

สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) : ดอกพุดแก้ว


สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) : ดอกพุดแก้ว




6. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) : ดอกพุดแก้ว

          ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาวกลีบดอกเป็นรูปดาว มีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืน ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งอีกด้วย เคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองในตำนานเรื่องเล่ารวมทั้งบทเพลงของฟิลิปปินส์ด้วย เช่นกัน

ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) : ดอกพู่ระหง

 ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) : ดอกพู่ระหง





5. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) : ดอกพู่ระหง

          ดอกไม้ประจำชาติมาเลเซีย เป็น ดอกพู่ระหง (Bunga Raya) ในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า บุหงารายอ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ดอกชบาสีแดง ลักษณะกลีบดอกเป็นสีแดง มีเกสรยื่นยาวออกมาเหนือดอก ซึ่งถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความอดทนในชาติ โดยเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้สูงส่งและสง่างาม รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์และความงามได้อีกด้วย

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People's Democratic Republic) : ดอกจำปาลาว


สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People's Democratic Republic) : ดอกจำปาลาว



4. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People's Democratic Republic) : ดอกจำปาลาว

          ดอกไม้ประจำชาติลาว คือ ดอกจำปาลาว (Dok Champa) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดอกลีลาวดี หรือ ดอกลั่นทม โดยดอกจำปาลาวมักมีสีสันหลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเพียงสีขาวเท่านั้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีแดง หรือสีโทนอ่อนต่าง ๆ โดยดอกจำปาลาวนั้นเป็นตัวแทนของความสุขและความจริงใจ จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อประดับประดาในงานพิธีต่าง ๆ รวมทั้งใช้เป็นพวงมาลัยเพื่อรับแขกอีกด้วย

สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) : ดอกกล้วยไม้ราตรี


สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) : ดอกกล้วยไม้ราตรี




3. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) : ดอกกล้วยไม้ราตรี

          ดอกไม้ประจำชาติอินโดนีเซีย คือ ดอกกล้วยไม้ราตรี (Moon Orchid) ซึ่งเป็นหนึ่งในดอกกล้วยไม้ที่บานอยู่ได้นานที่สุด โดยช่อดอกนั้นสามารถแตกกิ่งและอยู่ได้นาน 2-6 เดือน โดยดอกจะบานแค่ปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ดอกกล้วยไม้ราตรีสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศชื้น จึงพบเห็นได้ง่ายในพื้นที่ราบต่ำของประเทศอินโดนีเซีย

ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) : ดอกลำดวน


ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) : ดอกลำดวน





2. ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) : ดอกลำดวน

          ดอกไม้ประจำชาติกัมพูชา เป็น ดอกลำดวน (Rumdul) ดอกไม้สีขาวปนเหลืองนวล กลีบดอกหนาทึบและแข็งเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเย็นแบบกรุ่น ๆ ถูกจัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งเพราะมีความหมายถึงความสดชื่นหอมกรุ่น และเป็นดอกไม้สำหรับสุภาพสตรี วิธีปลูกที่ถูกต้อง ต้องปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวบ้าน ที่สำคัญต้องปลูกในวันพุธด้วยนะ

บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) : ดอกซิมปอร์


บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) : ดอกซิมปอร์




1. บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) : ดอกซิมปอร์

          ดอกไม้ประจำชาติบรูไน ก็คือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia) ดอกไม้ประจำท้องถิ่นบรูไน ที่มีกลีบขนาดใหญ่สีเหลือง หากบานเต็มที่แล้วกลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่ม พบเห็นได้ตามแม่น้ำทั่วไปของบรูไน มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผล หากใครแวะไปเยือนบรูไน จะพบเห็นได้จากธนบัตรใบละ 1 ดอลลาร์ ของประเทศบรูไน และในงานศิลปะพื้นเมืองอีกด้วย

ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน 10 ประเทศ


ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน 10 ประเทศ




 ดอกไม้ประเทศอาเซียน 10 ชาติ ใช้ดอกไม้อะไรเป็นสัญลักษณ์ วันนี้เรามีข้อมูลมาฝาก

          ประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ รวมตัวกันเพื่อผนึกกำลังในการพัฒนาแต่ละประเทศให้เจริญก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยกับเขาด้วย วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของชาติอาเซียนในแต่ละประเทศมาฝากกันเพื่อเพิ่มเติมความรู้ ว่าแต่จะมีดอกไม้อะไรบ้าง อย่ารอช้ารีบไปดูกันเลย..  

ฟิลิปปินส์ : อโดโบ้


ฟิลิปปินส์ :  อโดโบ้




10.  ฟิลิปปินส์ :  อโดโบ้

ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีเกาะจำนวนมาก อาหารของแต่ละภูมิภาคจึงแตกต่างกันอาหารประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ “อโดโบ้”  เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจาก ภาคเหนือของ ฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ที่หมัก และปรุงรส โดยใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวานพริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวย
ขั้นตอนการทำนี้ สูตรมาจาก aseanbyminandbenz.wordpress.com
  1. ใส่น้ำมันรำข้าวลงในกระทะ พอร้อนดี ก็นำไก่ลงไปจี่ให้ด้านนอกสุกเล็กน้อย
  2. เติมซีอิ้วขาว น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า หอมใหญ่สับ กระเทียม ใบกระวาน พริกไทยขาว และขิงลงไป เคี่ยวประมาณ 30 นาที จนไก่นุ่ม และน้ำลดลง
  3. ตัดรสด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย ก่อนยกออกจากความร้อน เสิร์ฟรับประทานกับข้าว

อาหารบรูไน : อัมบูยัต


 อาหารบรูไน : อัมบูยัต






9. อาหารบรูไน : อัมบูยัต

อาหารบรูไน กินเหมือนกับชาวมาลายูกินข้าวเป็นหลักและอาหารที่ทำจากแป้งสาคู เรียกว่า “อัมบูยัต”เป็นอาหารบรูไน มีลักษณะเด่นที่แป้ง จะเหนียวข้นคล้ายข้าวต้ม หรือโจ๊กโดยมีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก ตัวแป้งอัมบูยัตไม่มีรสชาติแต่ความอร่อยอยู่ที่การจิ้มกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวและมีเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด มีผักสด เนื้อห่อใบตองย่างหรือเนื้อทอด
ขั้นตอนการทำนี้ สูตรมาจากเว็บไซต์ library.sut.ac.th
วิธีทำแป้ง ผสมน้ำร้อนกับแป้งสาคู 4 ถ้วยน้ำนาน 10 นาทีแล้วจึงเทน้ำส่วนเกินทิ้ง
  1. วีธีทำปลา ทำความสะอาดปลาและหั่นเป็นชิ้น นำส่วนผสมอื่นๆ ผัดเข้าด้วยกันและนำปลามาคลุกเคล้าจนสุก
  2. วิธีทำเครื่องเคียง ผัดส่วนผสมที่โขลกอย่างดีในน้ำมันทร้อนจนหอมเพิ่ม เกลือ น้ำ ตกแต่งด้วยพริกแดง
  3. วิธีทำเครื่องเคียง ผัดส่วนผสมที่โขลกอย่างดีในน้ำมันที่ร้อนจนหอมเพิ่ม เกลือ น้ำ ตกแต่งด้วยพริกแดง


อาหารสิงคโปร์ : ลักซา


อาหารสิงคโปร์ :  ลักซา





 8. อาหารสิงคโปร์ :  ลักซา

“ลักซา” เป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวเปอรานากัน กลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีน  ประกอบไปด้วย เส้น ถั่วงอก  ลูกชิ้นปลาหรือฮือก้วย กุ้ง หอยแครง น้ำต้มยำกะทิและเสิร์ฟคู่กับน้ำพริก ตกแต่งด้วยใบลักซาทานคู่กับห่อหมกปลา
ขั้นตอนการทําวิธีนี้ สูตรมาจาก  laksa-singapore.blogspot.com
  1. ทําน้ำซุป – ต้มนํ้าให้เดือด ใช้กระดูกหมูหรือซี่โครงไก่ ต้มให้เดือดๆ เติมผงคนอร์ รากผักชี น้ำกระเทียมดอง หัวไชเท้า ก็หั่นใส่ลงไป จะทําให้รสชาติหวาน
  2. วิธีทํา – ลวกเส้น ใส่รอไว้ในถ้วย ใส่กระเทียมเจียว จากนั้น ใส่หมูสับ ลูกชิ้น (ต้องลวกให้สุกก่อน) ใส่ไข่ต้มผ่าครึ่ง และเกี้ยวทอด
  3. เครื่องปรุง – ใส่พริก น้ำปลา น้ำตาล พริกไทย ตั้งฉ่าย น้ำส้ม / มะนาว ถั่วป่น ตักน้ำซุปราดเล็กน้อย ด้วยต้นหอมผักชี ตั้งฉ่าย
วิธีทำต้มน้ำสต็อก นำไก่และน้ำเปล่าต้มให้เดือดแล้ว เติมปลาแอนโชวี่แห้งลงไป เคี่ยวบนไฟปานกลาง 1 ชั่วโมง หรี่ไฟแล้วเคี่ยวต่อในขณะเดียวกัน ตำหรือปั่นส่วนผสมทั้งหมดของเครื่องแกงจนเป็นเนื้อเดียวกัน 
  1. ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป 4 ช้อนโต๊ะแล้วผัดเครื่องแกงประมาณ 5-10 นาที จนเครื่องแกงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและส่งกลิ่นหอม
  2. ใส่เครื่องแกงที่ผัดแล้วกับกะทิลงในหม้อน้ำซุป เร่งไฟ รอจนเดือดแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา

อาหารอินโดนีเซีย : กาโด กาโด


อาหารอินโดนีเซีย : กาโด กาโด






7. อาหารอินโดนีเซีย : กาโด กาโด

กาโด กาโด (Gado Gado) เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของอินโดนีเซีย คล้ายกับสลัดแขก ซึ่งจะประกอบด้วยถั่วเขียว มันฝรั่ง ถั่วงอก เต้าหู้ ไข่ต้มสุก กะหล่ำปลี ข้าวเกรียบกุ้ง รับประทานกับซอสถั่วที่มีลักษณะเหมือนซอสสะเต๊ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยเครื่องสมุนไพรในซอส อาทิ รากผักชี หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ทำให้เมื่อรับประทานแล้วจะไม่รู้สึกเลี่ยนกะทิมากจนเกินไป นั่นเอง
ขั้นตอนการทําวิธีนี้ สูตรมาจาก  projects577.wordpress.com
  1. วิธีทำแป้ง ผสมน้ำร้อนกับแป้งสาคู 4 ถ้วยน้ำนาน 10 นาทีแล้วจึงเทน้ำส่วนเกินทิ้ง
  2. วีธีทำปลา ทำความสะอาดปลาและหั่นเป็นชิ้น นำส่วนผสมอื่นๆ ผัดเข้าด้วยกันและนำปลามาคลุกเคล้าจนสุก
  3. วิธีทำเครื่องเคียง ผัดส่วนผสมที่โขลกอย่างดีในน้ำมันทร้อนจนหอมเพิ่ม เกลือ น้ำ ตกแต่งด้วยพริกแดง
  4. วิธีทำเครื่องเคียง ผัดส่วนผสมที่โขลกอย่างดีในน้ำมันที่ร้อนจนหอมเพิ่ม เกลือ น้ำ ตกแต่งด้วยพริกแดง

อาหารมาเลเซีย : นาซิ เลอมัก


อาหารมาเลเซีย : นาซิ เลอมัก




 6. อาหารมาเลเซีย : นาซิ เลอมัก

คนมาเลเซียส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น อาหารการกินของคนมาเลเซียจึงเป็นแบบมุสลิม หรือที่เรียกว่า “อาหารฮาลาล”  อาหารประจำชาติของมาเลเซีย คือ “นาซิ เลอมัก”  เป็นข้าวหุงกับกะทิ และใบเตย กินกับเครื่องเคียง 4 อย่าง คือ ปลากะตักทอดกรอบ แตงกวาหั่น ไข่ต้มสุก และถั่วอบ มักทานเป็นอาหารเช้าประเทศสิงคโปร์ และภาคใต้ของไทยก็นิยมกินเช่นกัน
ขั้นตอนการทำนี้ สูตรมาจาก pantip.com
  1. ล้างข้าวให้สะอาดใส่ลงในหม้อหุงข้าว พร้อม น้ำและกะทิ เกลือ มัดใบเตยลงใส่หุงข้าวปกติ
  2. โขลกพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กระปิ ให้ละเอียด ใส่น้ำมันพืช 2 ชต และพริกที่โขลกลงผัด ปรุงรสด้วย น้ำตาลทรายแดง น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว เกลือ ผัดให้เข้ากัน ยกลง 
  3. ตักข้าวที่หุงใส่จาน พร้อมใส่เครื่องเคียงและน้ำพริกหวาน

อาหารลาว : ซุปไก่


อาหารลาว :  ซุปไก่




5. อาหารลาว :  ซุปไก่

อาหารประจำชาติลาว คือ “ซุปไก่” เป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศลาว มีส่วนผสมในการประกอบ คือ ตะไคร้ ใบสะระแหน่ กระเทียม และหอมแดง อาหารลาวโดยส่วนใหญ่มักจะมีผักและสมุนไพรเป็นส่วนผสมในการปรุงคล้ายกับอาหารไทย “ซุปไก่” จัดว่าเป็นอาหารที่เรียบง่ายที่สุด ปรุงน้อยที่สุด รสชาติดั้งเดิมไม่ได้มีรสจัดอย่างที่เราเข้าใจกัน